การคิดบวก อาจ ไม่ได้เปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา หรือทำให้เราได้ทุกอย่างตามที่หวัง

แต่อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น มีความหวังมากขึ้น และอาจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ

ให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ หรือถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้นอย่างคิดไม่ถึงก็ได้

ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว จะรอช้าอยู่ไย มาเริ่มคิดบวกด้วยกันนะคะ  

 คิดบวกคืออะไร                     

 การคิดบวกที่ว่า คือ การมองเห็น รับรู้ ในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

ไม่ได้เป็นการมโน เพ้อฝัน คิดไปเอง

ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่า  คิดบวก คิดลบ กับมโนว่าคิดบวก

ต่างกันยังไง 

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อพบอุปสรรคอะไรสักอย่าง คนคิดบวก จะยอมรับกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น

ดูว่ามีอะไรที่เขาทำได้บ้าง เพื่อทำให้ปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นหมดไป ในขณะที่ทำก็จะหาข้อดี

ที่ได้จากการกำจัดอุปสรรคต่างๆ เช่นเห็นว่าเป็นการฝึกควาอดทน

เป็นการพัฒนาตนให้เรียนรู้การแก้ปัญหา ส่วนคนที่คิดลบ จะเห็นแต่ปัญหาและ อุปสรรค

มองไม่เห็นหนทางที่จะทำได้ แล้วก็โทษโน้น โทษนี่ หาเหตุผลร้อยแปด

ที่ทำให้ทำไม่ได้ ในที่สุดก็ทำไม่ได้ตามที่คิดไว้ ส่วนคนมโนก็จะได้แต่หวังว่าปัญหาและอุปสรรคจะหมดไปเอง

โดยไม่คิดจะทำอะไร มีแต่ความหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แบบนี้เรียกว่ามโนแน่นอน

 แล้วจะคิดบวกได้ยังไง  ง่ายๆคะมาลองใช้ 7 เส้นทาง สู่การคิดบวกด้วยกันคะ

 1. เชื่อมั่นว่าทำได้

บอกกับตัวเองว่า ฉันเลือกคิดบวก เมื่อตัดสินใจแล้วก็เดินหน้าต่อไป

 2. เลือกสิ่งที่เป็นผลบวกกับชีวิต

เนื่องจากรอบๆตัวเรา มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมาย 

มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ดังนั้นจึงควรเลือกรับสิ่งที่เป็นผลบวก

และตอบสนองสิ่งที่เป็นบวกออกไป เพราะมันจะเป็นพลังบวกกลับมาให้เราด้วย 

 3. ให้ความหมายที่เป็นบวกกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราได้

สิ่งที่ดีที่สุดคือ หาความหมายที่เป็นบวกจากสิ่งนั้น เช่น เมื่อตกงาน คนคิดบวกจะบอกกับตัวเองว่า

นี่คือช่วงเวลาที่ทำให้มีโอกาสได้เปลี่ยนงาน หรือหาทางพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น คนคิดบวกจะไม่โทษใคร

และไม่ดูถูกตัวเอง                                         

 4. พูดคุยกับคนคิดบวก

คนเรามีแนวโน้มที่จะเป็นแบบคนที่เราอยู่ใกล้ ไม่มากก็น้อย

ดังนั้นถ้าเราได้พูดคุยกับคนคิดบวก เราจะได้เรียนรู้สิ่งดีๆโดยเฉพาะวิธีการคิดบวกจากพวกเขา

เกิดการเรียนรู้และทำตามโดยอัตโนมัติ ตามสุภาษิตที่ว่าคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล

เราจะได้พลังงานบวกจากพวกเขา ที่นำพาให้เราคิดบวกไปได้

 5. ปรับใจให้เป็นบวกกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ต่อให้เราเตรียมพร้อมมากมายขนาดไหน

ก็อาจพบปัญหาหรืออุปสรรคที่คาดไม่ถึง จากปัจจัยอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง

ดังนั้นจึงต้องรู้จักยืดหยุ่น ปรับตัว พร้อมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่หงุดหงิด หรือกังวลใจกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

และไม่ทุกข์ใจกับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คิด แต่จะหาวิธีรับมือกับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ 

ดังคำพูดที่ว่า ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ห่มผ้า อากาศร้อน ก็เปิดแอร

  6. ทำตอนนี้ให้ดีที่สุด 

ทุกครั้งที่กังวลใจ ไม่สบายใจ อยากให้เวลาผ่านไปเร็วๆ

วิธีหนึ่งที่ช่วยได้คือ หยุดคิดถึงอนาคต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด

เท่านี้ก็พอ อยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบัน ให้ดีที่สุด  

แล้วอนาคตจะดูแลตัวมันเอง

  7. เตือนตัวเองให้คิดบวก 

เป็นไปได้ที่เราพลั้งเผลอบ้าง ดังนั้นเมื่อเผลอคิดลบ รีบเตือนตัวเอง

และให้กำลังใจตัวเองให้คิดบวกต่อไป ถ้ายังคิดไม่ได้ ให้ถามตัวเองว่า เรื่องที่เรากำลังรู้สึกอยู่นี้

ถ้าเกิดกับคนคิดบวก เขาจะทำอย่างไร

แล้วลงมือทำตามคำตอบที่ได้ 

เมื่อคิดบวก เราจะเห็นสิ่งที่เป็นไปได้มากขึ้น เห็นโอกาสเพิ่มขึ้น

และได้รับสิ่งดีๆที่นำพาไปสู่ความสำเร็จได้  

แค่คิดบวก ชีวิตก็สำเร็จ แน่นอนคะ